Bangpakok Hospital

ไขมันพอกตับ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นได้

18 พ.ย. 2565


ไขมันพอกตับ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นได้

ไขมันพอกตับ ไม่ได้มาจากแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่มาจากน้ำตาลฟรุกโตส และน้ำตาลอุสาหกรรม ซึ่งมีอยู่ในอาหารมากกว่า 70% อันตรายมากกว่าการดื่มแอลกอฮอล์เสียอีก

ในปัจจุบันภาวะไขมันพอกตับกลายเป็นภัยเงียบที่อันตราย เนื่องจากโรคนี้มักไม่ทำให้เกิดการเจ็บปวด หากมีอาการก็อาจเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงบ่งบอกถึงโรคนี้ได้ 

ดังนั้นเราควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ และเช็กอาการที่พอจะสังเกตได้ว่ามีภาวะไขมันพอกตับ พร้อมเรียนรู้วิธีป้องกันไขมันป้องกันด้วยตัวเองกันค่ะ

สาเหตุการเกิดโรค

แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

  1. จากการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับเพศ ประเภท ปริมาณ และระยะเวลาที่ดื่มแอลกอฮอล์
  2. จากปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น
  • กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานสูงของร่างกาย เช่น โรคอ้วน (ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25) โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง
  • การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงเป็นประจำ เช่น แป้ง น้ำตาล ไขมัน
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาต้านไวรัสบางชนิด ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยากลุ่มต้านฮอร์โมน

ไขมันพอกตับแบ่งออกเป็น 4 ระยะดังนี้

  • ระยะแรก เป็นระยะที่มีไขมันสะสมอยู่ในเนื้อตับ แต่ยังไม่มีการอักเสบหรือพังผืดเกิดขึ้นในตับ
  • ระยะที่สอง เป็นระยะที่เริ่มมีการอักเสบของตับ ในระยะนี้หากไม่ควบคุมดูแลให้ดีและปล่อยให้อักเสบไปเรื่อยๆ เกินกว่า 6 เดือน อาจกลายเป็นตับอักเสบเรื้อรัง
  • ระยะที่สาม การอักเสบรุนแรง ก่อให้เกิดพังผืดในตับ เซลล์ตับค่อยๆ ถูกทำลายลง
  • ระยะที่สี่ เซลล์ตับถูกทำลายไปมาก ตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้ตับแข็งและอาจกลายเป็นมะเร็งตับได้

 

อาการ

โดยทั่วไปโรคไขมันพอกตับไม่ทำให้เกิดอาการทางร่างกาย หรือหากมีอาการก็อาจเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงมากพอที่จะบ่งบอกโรคได้ เช่น อ้วนลงพุง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ รู้สึกเจ็บบริเวณใต้ชายโครงขวา โดยส่วนใหญ่การตรวจพบโรคไขมันพอกตับ มักจะพบเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการเจาะเลือดตรวจสุขภาพ

 

แนวทางการป้องกัน

  • ลดน้ำหนักโดยการควบคุมปริมาณและคุณภาพอาหาร หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น นม เนย ไอศกรีม เค้ก ชีส กะทิ อาหารทะเล ไข่แดง หลีกเลี่ยงไม่รับประทานอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมากเกินไป 
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน ครั้งละ 30 นาที 
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ติดตามช่องทางออนไลน์อื่นๆ ของโรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ
Website : https://www.bpksamutprakan.com/
Facebook : https://www.facebook.com/Bangpakoksamutprakan
LINE Official Account : https://lin.ee/7EFV8ra

Go to top
Copyright © 2021 Bangpakok Hospital All rights reserved.